วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2558


แตงโม watermelon



แตงโม ผลไม้ลูกกลมโต เปลือกนอกสีเขียวเข้มหรือมีหลายสีเขียวอ่อนพาดตามยาว เนื้อในฉ่ำน้ำรสหวานหอม มีเมล็ดสีดำเล็กๆ แทรกอยู่ตามแนวกลาง เนื้อในมีทั้งพันธ์สีแดงและสีเหลือง แตงโมเป็นผลไม้ที่เหมาะกับเมืองร้อนอย่างบ้านเรา เพราะช่วยดับกระหายคลายความร้อนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่สูงถึงร้อยละ92 เหมาะกับชื่อภาษาอังกฤษ  “watermelon
                เนื้อแตงโมมีเบตาแคโรทีนและวิตามินซีสูง ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันป้องการติดเชื้อบำรุงสายตาและผิวพรรณ มีสารไลโคพีนซึ่งเป็นรงควัตถุที่ทำไห้ผลไม้มีสีแดงไลโคพีนนี้จะช่วยต้านอนุมูลอิสระลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและมะเร็งต่อมลูกหมากได้เป็นอย่างดี
                ที่น่าสังเกตคือในแตงโมเนื้อสีแดงและเหลืองมีปริมาณของเบตาแคโรทีนและไลโคพีนแตกต่างกันมาก โดยแตงโมเนื้อสีแดง 1 ส่วน( 170) มีเบตาแคโรทีน 1,047 ไมโครกรัม ไลโคพีน 1,137 ไมโครกรัม ในขณะที่แตงโมเนื้อสีเหลือง 1 ส่วน( 188 กรัม ) มีเบตาแคโรทีน10 ไมโครกรัม และไม่มีไลโคพีนเลย นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัยการเกษตรฯ แห่งสหรัสอเมริกา ยังพบว่าแตงโมมีสารซิทรูลีน (citrulline) ที่ร่างกายจะใช้สารนี้ในการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่กรดอมิโนอาร์จินีน (arginine) ซึ่งเป็นกรดอมิโนที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหลอดเลือด ส่งผลดีต่อการไหลเวียนโลหิตช่วยกำจัดแอมโมเนียซึ่งเป็นของเสียจากการย่อยสลายโปรตีนออกจากร่างกาย และมีบทบาทต่อการแบ่งตัวของเชลล์ ช่วยรักษาบาดแผลให้หายเร็ว
                เนื้อแตงโมยังมีสาระสำคัญต่อร่างกายอีกหลายชนิด เช่น เส้นใยอาหาร โพแทสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส ขณะเดียวกันแตงโมก็ปราศจากไขมัน มีแคลอรีและโซเดียมต่ำจึงเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก สำหรับผู้ป่วยโรคไตที่ต้องจำกัดปริมาณน้ำควรหลีกเลี่ยงการกินแตงโม หรือแม้แต่ผู้มีสภาพร่างกายปกติก็ไม่ควรกินแตงโมมากเกินไป เพราะน้ำปริมาณมากจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะเจือจางลง ก่อให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อยหรือท้องเสียได้
                ส่วนอื่นๆของแตงโมก็มีประโยชน์โดดเด่นไม่แพ้กัน เปลือกแตงโมช่วยลดอาการระคายเคืองจาการถูกแดดเผาได้ โดยการนำไปแช่เย็นแล้วแป๊ะลงบริเวณนั้น เมล็ดแตงโมอบหรือเมล็ด “กวยจี๊ ในภาษาจีนเป็นของคบเคียวที่ใครหลายติดใจ ส่วนประโยชน์ที่จะได้รับมากกว่าความมัน คือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต แมกนีเซียม สังกะสี เหล็ก รวมถึงแคลเซียมด้วยเกษตรกรจะเก็บผลผลิตแตงโมเมื่อขัวผลเริ่มเหี่ยวยุบลง ผิวแตงกร้าน และมือเกาะใกล้ขั้วแห้ง สำหรับคนซื้อมีวิธีเลือกง่ายๆเพื่อให้คุณภาพดี โดยการดีดหรือตบเบาๆ แล้วฟังเสียงกังวานแสดงว่าแตงโมอ่อน เสียงผสมระหว่างกังวานและทึบแสดงว่าแก่พอดี ถ้าเสียงทึบอย่างเดียวบ่งบอกว่าแก่เกินไป หรือที่เรียกว่า “ไส้ส้ม” การเก็บรักษาควรเก็บแตงโมทั้งลูกไว้ที่อุณหภูมิห้อง จะช่วยให้ปริมาณสารเบตาแคโรทีนและไลโคพีนสูงกว่าผ่าทิ้งไว้ส่วนใครผ่าแล้วแช่เย็น ก็ควรใช้พลาสติกห่อหุ้มไว้ก่อนนำเข้าตู้เย็น เพื่อป้องกันการระเหยของน้ำในแตงโม และป้องแตงโมดูดกลิ่นอื่นในตู้เย็นจนทำให้เสียรสชาติ


แตงไทย  muskmelon



แตงไทยไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย แต่มาจากตอนใต้ของแอฟริกา เป็นพืชเถาเลื้อยวงศ์เดียวกับแตงกวา ลักษณะเนื้อในจึงคล้ายกัน แต่ขนาดผลแตงไทยจะใหญ่กว่ารูปทรงก็มีทั้งแบบกลมรีหรือกลมยาว หัวท้ายมน ผลอ่อนใช้กินเป็นผักจิ้มน้ำพริก นำไปดองยำ หรือใส่ในแกงต่างๆ เมื่อสุกผลจะมีสีขาวอมเหลืองแกมสด มีลายสีขาวพาดตามยาว เนื้อในฉ่ำน้ำ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รสหวานแต่ไม่หวานมากเท่าแตงโมหรือแคนตาลูป
                การกินแตงไทยจะช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับตาได้ เพราะมีเบตาแคโรทีนและวิตามินเออยู่สูงมากโดยเฉพาะในเนื้อผลแก่ มีวิตามินชีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวแข็งแรงและเสริมระบบภูมิคุ้มกันมีคาร์โบไฮเดรตช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย มีโพแทสเซียมที่มีส่วนช่วยควบคุมความดันโลหิตและจังหวะการเต้นของหัวใจ และลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) มีเส้นใยอาหารช่วยปรับระบบขับถ่าย ฟอสฟอรัสและแคลเซียมในแตงไทยยังช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงอีกด้วย
                สรรพคุณอื่นๆของแตงไทยที่คนโบราณว่าไว้ก็คือเนื้อผลกินขับปัสสาวะ ขับน้ำนม ขับเหงื่อ บำรุงหัวใจและสมอง ดอกอ่อนตากแห้ง นำมาต้มน้ำดื่มทำให้อาเจียน แก้ดีซ่าน หรือนำมาบดเป็นผงพ่นแก้แผลในจมูก เมล็ดกินช่วยย่อยอาหารขับปัสสาวะ และแก้ไอรากต้มดื่มทำให้อาเจียนระบายท้อง
                แตงไทยให้ผลผลิตมากในช่วงฤดูร้อน มักนำมากินสดหรือกินคู่กับกะทิ เป็นของหวานที่หลายคนโปรดปราน เพราะมีรสชาติหวานหอม เย็นชื่นใจ ช่วยดับกระหายความร้อนได้เป็นอย่างดี



หนังสือ ผลไม้บำรุงสุขภาพ
กองบรรณาธิการหนังสือสุขภาพกาย-ใจ

จัดพิมพ์โดย  บริษัท พิมพ์ดี จำกัด

933,935,937 ซอยกาญจนาภิเษก 008 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160